ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)

3.1 หลักความชอบด้วยกฎหมาย เป็นธรรม และโปร่งใส (Lawfulness, Fairness and Transparency)

บริษัทฯ มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยมีฐานทางกฎหมาย มีการแจ้ง วัตถุประสงค์ของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวมและระยะเวลาในการเก็บรักษา

3.2 หลักการจำกัดวัตถุประสงค์ (Purpose Limitation)

บริษัทฯ มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ขอบเขตและวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ กำหนดและได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้แล้ว ก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่แตกต่างจากวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้จะกระทำไม่ได้ เว้นแต่ ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่และได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแล้วหรือกฎหมายบัญญัติให้กระทำได้

3.3 หลักการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น (Data Minimization)

บริษัทฯ มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย

3.4 หลักความถูกต้องครบถ้วน (Accuracy)

บริษัทฯ จะต้องทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมีความครบถ้วน ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

3.5 หลักการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัดระยะเวลา (Storage Limitation)

บริษัทฯ มีการกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล และดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นระยะเวลาเก็บรักษา หรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้ ยกเว้นกรณีที่มีกฎหมายกำหนด

3.6 หลักการรักษาความถูกต้องครบถ้วนและการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคล (Integrity and Confidentiality)

บริษัทฯ ได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ

3.7 หลักความรับผิดชอบ (Accountability)

บริษัทฯ มีความรับผิดชอบต่อข้อมูลส่วนบุคคลและจะดำเนินการตามหลักการในข้อ 3.1 – 3.6

6.1

บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้ให้อยู่ในสภาพครบถ้วน ถูกต้อง สมบูรณ์และพร้อมใช้งาน ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันแรกที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าทำสัญญาหรือให้ข้อมูล เพื่อเป็นประโยชน์ในการดำเนินการทั้งนี้บริษัทฯ จะจัดให้มีการลบหรือทำลาย ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สามารถติดต่อและยืนยันตัวบุคคลได้ และข้อมูลอื่นที่หมดความจำเป็น ตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่กฎหมายกำหนด แต่ก่อนการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในรูปแบบที่สามารถอ้างอิงได้ในภายหลัง กรณีที่มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นไว้เพื่อเป็นพยานหลักฐานทางกฎหมาย

6.2

สำหรับข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากการเข้าถึงและการใช้งานระบบ สารสนเทศ ระบบคอมพิวเตอร์ แอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ ที่บริษัทฯ ให้บริการแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์กำหนดให้ผู้ดำเนินการและให้บริการระบบของบริษัทฯ ต้องเก็บรักษาไว้ไม่น้อยกว่า 90 วัน นับแต่วันที่ข้อมูลนั้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ในกรณีจำเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งให้ผู้ให้บริการผู้ใดเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้เกิน 90 วัน แต่ไม่เกิน 2 ปี เป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายและเฉพาะคราวก็ได้ ดังนั้น บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ดังกล่าวไว้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ อาจต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อการตรวจสอบ พิสูจน์ บริหารจัดการความเสี่ยง วางแผน แก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์หรือความเสี่ยงของระบบสารสนเทศ หรือใช้เป็นพยานหลักฐาน บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวไว้เป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็น

6.3

สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นลักษณะของภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมไว้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือนนับจากวันที่เก็บรวบรวม เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ อาจต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อการตรวจสอบ พิสูจน์ บริหารจัดการความเสี่ยง วางแผน แก้ไข ปัญหาที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด การป้องกันเหตุที่ไม่พึงประสงค์ หรือใช้เป็นพยานหลักฐาน บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวไว้เป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นแต่ไม่เกินอายุความสูงสุดของคดีที่อาจเกี่ยวข้อง

6.4

สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็น "ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรม" บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไว้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือนนับจากวันที่ดำเนินการเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรมหรือตรวจสอบคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามเกี่ยวกับการกระทำความผิดอาญาหรือการรับโทษทางอาญาเสร็จสิ้นสำหรับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละราย ตามวัตถุประสงค์และความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่จะได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นอย่างอื่น เพื่อให้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับมาตรการคุ้มครองสำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรมที่มิได้กระทำภายใต้การควบคุมของหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย พ.ศ. 2566

7.1

หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายหรือที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย ที่เกี่ยวข้อง เช่น ศาล สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือหน่วยงานอื่นที่มีพนักงานสอบสวน เจ้าพนักงาน พนักงานฝ่ายปกครอง ตำรวจ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ที่มีหน้าที่และอำนาจดังกล่าวตามกฎหมาย เป็นต้น

7.2

หน่วยงานอื่นใดที่จำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของบริษัทฯ หรือประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

7.3

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลอื่น บริษัทฯ จะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น

7.4

ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลอื่น บริษัทฯ จะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะพิจารณาว่าการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลหรือหน่วยงานดังกล่าว เป็นกรณีที่มีความจำเป็นและสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง และจะดำเนินการเพื่อป้องกันมิให้บุคคลหรือหน่วยงานนั้นใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ

7.5

ผู้ให้บริการคลาวด์ ผู้ให้บริการหรือพัฒนาระบบสารสนเทศ ระบบคอมพิวเตอร์ แอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ที่โครงการฯ ดำเนินการและให้บริการระบบของบริษัทฯ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากบริษัทฯ ผู้ดำเนินการและให้บริการระบบของบริษัทฯ รวมถึงการดำเนินการอย่างอื่นที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของบริษัทฯ ถือเป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ภายใต้ความรับผิดชอบของโครงการฯ ซึ่งโครงการฯ จะมีข้อตกลงหรือสัญญาระหว่างกัน เพื่อควบคุมการดำเนินงานตามหน้าที่ของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ได้รับมอบหมายจากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

9.1

สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนหรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม (Right of Access) ตามมาตรา 30 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

9.2

สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเมื่อใดก็ได้ (Right to Object) โดยเป็นไปตามมาตรา 32 วรรคหนึ่ง เว้นแต่ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะพิสูจน์ได้ ตามมาตรา 32 วรรคหนึ่ง (1) (ก) และ (ข) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

9.3

สิทธิในการขอให้บริษัทฯ ดำเนินการลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ (Right to Erasure) ตามมาตรา 33 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

9.4

สิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ (Right to Restriction of Processing) ตามมาตรา 34 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

9.5

สิทธิในการร้องขอให้บริษัทฯ ดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด (Right to Rectification) ตามมาตรา 36 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

9.6

สิทธิร้องเรียนตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือประกาศที่ออก ตามพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามมาตรา 73 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562